Author: thaiwearable61

บริษัทญี่ปุ่นอาจต้องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้แก่พนักงานทุกคน

อาจมีพลังงานบางอย่างที่กำลังคุกรุ่นได้ที่ภายในตลาดแรงงานของญี่ปุ่น การที่จำนวนประชากรในญี่ปุ่นลดลงและอัตราการเพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้สูงอายุอาจเป็นผลทำให้เกิดภาวะเงินฝืด ซึ่งทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นอยู่ในภาวะชะลอตัว อย่างไรก็ตาม หลังจากต่อต้านการขึ้นค่าแรงมาเป็นเวลาหลายปี บริษัทในญี่ปุ่นอาจต้องมานั่งทบทวนถึงความจำเป็นในการรักษาพนักงานให้ยังอยู่ต่อ ก่อนที่พวกเขาจะลาออกกันไปเสียหมด ณ ขณะนี้ ธนาคารทางการเงินของญี่ปุ่นได้กล่าวถึงสถานการณ์นี้โดยยกคำพูดของออร์เวลมาเปรียบเปรยเลยว่า “จงรักษากำลังแรงงานไว้” อัตราการว่างงานในญี่ปุ่นอยู่ที่ 2.8% และลดลงอย่างต่อเนื่องขณะที่ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับการเจริญเติบโตของโลก ในช่วงเวลานี้ คนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ หรือคนที่เกิดในช่วง พ.ศ. 2489-2507 ก็ทยอยกันเกษียณอายุหมด ขณะที่ประเทศก็ยังต่อต้านการอพยพย้ายถิ่นจำนวนมากๆอยู่ การไหลบ่าเข้ามาของประชากรหญิงและผู้สูงอายุจะต้องได้รับการชดเชย และรับเงินเยียวยาบ้าง แต่กลุ่มคนทำงานในญี่ปุ่นกลับร่อยหรอจนแทบจะหมดสิ้น ปัญหาของสถิติจำนวนประชากรในญี่ปุ่นนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร ถึงแม้จะมีอัตราการว่างงานที่ต่ำก็ตาม แต่อัตราการเพิ่มขึ้นของค่าแรงยังคงซบเซา คงที่อยู่เพียงร้อยละ 0.6 เท่านั้น ปัญหานี้ทำให้ความพยายามของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่จะขยายค่าเงินขึ้นเป็นร้อยละ 2 เป็นอันต้องหยุดชะงักลง กระนั้น พาดหัวก็ยังปิดบังเรื่องของการขับเคลื่อนวงการแรงงานอยู่ พวกเขาได้รับอิทธิพลมาจากบริษัทใหญ่ ในขณะที่สหภาพมีแนวโน้มที่จะสร้างความสัมพันธ์อย่างอบอุ่นกับผู้บริหารและยอมรับการเพิ่มขึ้นของค่าเงินเพียงเล็กน้อย แม้ว่าบริษัทจะสามารถทำกำไรได้มหาศาลก็ตาม ในทางกลับกัน พนักงานนอกเวลากลับได้รับค่าแรงเพิ่มขึ้นอีกประมาณร้อยละ 2.5 ถึง 3 ขณะที่ฐานเงินเดือนของพวกเขายังคงต่ำอยู่ นำไปสู่คำถามที่ว่า เมื่อไรกันที่ภาวะขาดแรงงานจึงกลายเป็นเรื่องที่รุนแรงถึงขนาดมีการแย่งชิงกันในหมู่นายจ้าง และยอมเพิ่มเดิมพันความเสี่ยงที่จะสูญเสียพนักงาน? อิซุมิ เดวาเลียร์ หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจญี่ปุ่นประจำธนาคาร อเมริกา-เมอร์ริล ลินช์ กล่าวว่าเราได้มาถึงจุดๆนั้นแล้ว “เรามักเจอเหตุการณ์ที่เรามีความหวังว่าจะมีอะไรใหม่ๆเกิดขึ้น แต่สุดท้ายไม่เป็นเช่นนั้นมามากมายหลายครั้ง…

Read the full article

ข้อแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นอย่างกระชับ

1.ทำไม่เราต้องเรียนภาษาญี่ปุ่น บ้างอาจจะเรียนไปเพื่ออยากหาแฟนชาวญี่ปุ่น บ้างก็อยากจะเพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองโดยเอาไปสมัครเข้าทำงานในบริษัทญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่าเหตุผลหลักของการอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นนั้น คือประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่สวยงาม มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ดูดี แต่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่นั้นไม่พูดภาษาอังกฤษ กำแพงทางด้านภาษานี่แหละที่ขวางกั้นไม่ให้สิ่งต่างๆจากญี่ปุ่นหลายสิ่งเข้ามาสัมผัสกับโลกภายนอกที่พูดภาษาอังกฤษเป็นหลัก ชาวญี่ปุ่นมักเป็นเลิศด้านการเขียนนวนิยาย การประดิษฐ์ การพัฒนาเกมและการเขียนเพลง แต่ผลงานของพวกเขานั้น น้อยนักที่จะนำมาแปลเป็นภาษาสากลอย่างภาษาอังกฤษ ยกเว้นเรื่องที่โด่งดังมากๆเช่น ดราก้อนบอล และ ไฟนอลแฟนตาซี พวกเรากำลังพลาดสิ่งดีๆมีคุณค่าหลายอย่างจากประเทศญี่ปุ่นเพียงเพราะว่าไม่เข้าใจภาษาของพวกเขา หลังจากที่คุณชำนาญภาษญี่ปุ่นแล้วนั้น คุณจะรู้สึกเหมือนมีชีวิตที่สองเพิ่มขึ้น โลกใบใหม่ได้เปิดรอคุณแล้ว และคุณก็ยังจะมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล สารสนเทศที่จำกัดไว้เฉพาะคนญี่ปุ่นเท่านั้นได้ มีโอกาสมากมายให้คุณได้มองหาและนำมาใช้ แต่กุญแจสำคัญเลย คือคุณต้องพูดภาษาญี่ปุ่นให้ได้ คิดซะว่าภาษาญี่ปุ่นเหมือนกับพลั่ว เมื่อคุณมีพลั่วอยู่ในมือ คุณก็จะสามารถขุดให้ลึกลงไปสู่แหล่งทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุดในโลกได้อย่างสบายๆ งานญี่ปุ่นหลายแห่งในประเทศไทย หางานภาษาญี่ปุ่น | CareerLink.co.th 2.เอาล่ะ คำถามสำคัญ: ภาษาญี่ปุ่นยากมั้ย? ไม่มีภาษาไหนบนโลกที่ยากขนาดเด็กห้าขวบพูดไม่ได้ และไม่มีภาษาไหนบนโลกที่ง่ายขนาดชายแก่วัยห้าสิบ สามารถชำนาญได้ภายในเวลาไม่กี่อึดใจ ในฐานะผู้ที่สำเร็จการเรียนทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาอังกฤษนั้น (ฉันเป็นคนจีน) ฉันคิดว่า ภาษาญี่ปุ่นไม่ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คนทั่วไปเขาพูดกัน เหตุผลหลักที่ผู้คนคิดว่าภาษาญี่ปุ่นนั้นยาก เป็นเพราะหลักการเขียนภาษาญี่ปุ่นนั้นจะมีอักษรคันจิและอักษรสองแบบ เรียกว่า ฮิรางานะ และ คาตาคานะ ขณะที่ฉันเห็นด้วยว่าคันจินั้นยากที่จะชำนาญ แต่ฉันก็คิดว่า ฮิรางานะ และคาตาคานะก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร…

Read the full article

วิธีการเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นได้อย่างรวดเร็ว: 4 ทางลัดสุดเจ๋ง

คุณอยากพูดภาษาญี่ปุ่นให้ได้ตอนนี้เลยใช่ไหม? ใช่!!! เดี๋ยวนี้เลย ถ้าคำโปรยข้างต้นคือสิ่งที่คุณไขว่คว้าอยู่ ฉันคิดว่าฉันพอหาทางให้คุณได้นะ (และหวังว่า คุณจะไม่ผวาไปเสียก่อน) คุณคงจะเคยเงยหน้าขึ้นมาหลังจากจมไปกับหนังสือเรียน กับหนังสือการ์ตูนมังงะ หรือเงยหน้าขึ้นมาจากความรู้สึกสิ้นหวังว่าเราจะต้องพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้เรื่อง คุณแหงนหน้าขึ้นไปมองบนฟ้าอย่างอ้อนวอนพร้อมกับคิดว่า: เรามันเรียนไม่เข้าหัวเลยว่ะ! ดังนั้น คุณเลยพุ่งไปที่คอมพ์ของคุณ พิมพ์ลงไปในช่องค้นหาของกูเกิ้ลอย่างสิ้นหวังว่า “วิธีเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นให้ได้อย่างรวดเร็ว” แล้วไงต่อ? มันขึ้นอะไรมาให้คุณบ้าง? พนันได้เลยว่าคุณจะพบเจอกับผู้คนมากมายตามช่องความคิดเห็นที่คอยดับไฟความมุ่งมั่นของคุณ หรือที่แย่ไปกว่านั้น พวกเขาจะบอกกับคุณเลยว่า ให้เลิกเรียนภาษาญี่ปุ่นไปซะ เพราะว่ามันเป็นภาษาที่เรียนและเข้าใจได้ยากที่สุดในโลก คุณนั่งจมบนเก้าอี้ คอตก ครุ่นคิดว่านี่เรากำลังทำอะไรอยู่กันแน่? สูดหายใจเข้าช้าๆลึกๆ ไม่ต้องไปสนใจคนพวกนั้น หาขนมขบเคี้ยวทานเล่นสักหน่อย ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มเรียน ฮิรางานะ และ คาตาคานะ เป็นครั้งแรก หรือเพิ่งพานพบกับภาษาที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน โดยที่คุณรู้สึกว่า ยิ่งเรียนก็ยิ่งไปไม่ถึงไหน ถ้าสมัยเด็ก คุณเคยถูกจับโยนลงไปในทะเลสาบและโดนคนบนบกสั่งว่าให้ว่ายน้ำให้ได้ล่ะก็ คุณก็น่าจะรู้ว่า คุณทำอย่างนั้นไม่ได้แน่นอน คุณไม่สามารถที่จะลังกาหลังแล้วว่ายท่าผีเสื้อได้ราวกับนักกีฬาว่ายน้ำอย่างทันทีทันใดได้หรอก แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันก็ยังพอมีทริคที่จะช่วยให้คุณเรียนรู้ได้เร็วขึ้นอยู่บ้าง กุญแจสำคัญในการพัฒนาทักษะคุณคือการผนวกรวมกัน รวมอักษรคันจิเข้ากับการท่องศัพท์ของคุณ รวมแรงกับเพื่อนของคุณ รวมหลักไวยากรณ์เข้ากับการฝึกพูดของคุณ และรวมวิถีชีวิตประจำวันของคุณเข้ากับสิ่งเร้าที่มีองค์ประกอบของภาษาญี่ปุ่น นี่เป็นเคล็ดเล็กๆน้อยๆเพื่อเพิ่งพลังให้กับคุณ วิธีการเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นได้อย่างรวดเร็ว: 4 ทางลัดสุดเจ๋ง 1.ท่องคำศัพท์กับท่องคันจิไปพร้อมๆกัน ยอมรับซะเถอะ:…

Read the full article

6 เคล็ดลับในการเรียนภาษาญี่ปุ่น

ถ้าคุณชื่นชอบ หลงรักในประเทศญี่ปุ่นแล้ว มีโอกาสที่คุณจะหลงรัก และสื่อสารเป็นภาษาญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่วอีกเช่นกัน ลองนึกถึงเพื่อนที่เราจะได้ทำความรู้จักสิ ทั้งอนิเมะ มังงะ และวิดิโอเกม คุณจะสนุกกับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างเต็มอรรถรส ตามที่ผู้สร้างตั้งใจไว้ให้เป็นอย่างนั้น แต่หนทางในการชำนาญภาษาญี่ปุ่นนั้นช่างยาวไกล ยากลำบาก และเต็มไปด้วยหลุมพราง ภาษาญี่ปุ่นจัดอยู่ในภาษาประเภทที่ 5 ซึ่งหมายความว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 88 สัปดาห์ หรือ 2,200 ชั่วโมงในการเรียนให้เข้าใจได้ในระดับหนึ่ง สำหรับชาวต่างชาติที่พูดอังกฤษ เมื่อมาเทียบกันแล้ว ภาษาฝรั่งเศส ซึ่งถูกจัดให้อยู่ในภาษาประเภทที่ 1 ยังใช้เวลาแค่ 24 สัปดาห์ หรือ 600 ชั่วโมงในการเรียนให้เข้าใจในระดับหนึ่งเท่านั้น ภาษาญี่ปุ่นมีตัวอักษรแยกออกมาอีก 2 ตัวอักษร พร้อมกันกับตัวอักษรโจยุคันจิทั้งหมด 1,945 ตัว (ที่ใช้กันเป็นประจำ) หรือตัวกอักษรภาษาจีน ส่วนมากมักจะมีการออกเสียงที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละตัวอีกด้วย สรุปสั้นๆ การเรียนภาษาญี่ปุ่นถือเป็นเรื่องที่น่าหวาดหวั่นกับผู้ที่พูดภาษาอังกฤษเป็นหลักอยู่พอสมควร แต่ไม่ใช่ว่ามันมีอะไรให้ต้องเรียนเยอะแยะมากมายไปหมด ก็เลยพลอยให้คุณไม่อยากลองศึกษาพวกมันซะงั้นนะ มันยังคุ้มค่าที่จะลองเรียนดู แม้ว่าคุณจะไม่มีพรสวรรค์ในเรื่องภาษาเลย ไม่ได้โตมากับสภาพแวดล้อมที่อยู่ท่ามกลางเจ้าของภาษานั้นๆ หรือคุณไม่ได้ลงเรียนวิชาภาษาญี่ปุ่นก็ตามเถอะ! ใครๆก็สามารถเรียนอ่านและเขียนภาษาญี่ปุ่นได้ทั้งนั้นแหละ ถ้าคุณทุ่มเทให้กับมัน ไหนๆคุณก็มาอยู่ ณ เว็บไซต์สอนภาษญี่ปุ่นของ RocketNews24…

Read the full article

10 เคล็ดลับในการเรียนภาษาญี่ปุ่น ฉบับเข้มข้น

ตามข้อมูลของสถาบันการต่างประเทศ (FSI) เผยว่า ภาษาญี่ปุ่นติดอันดับหนึ่งในห้าภาษาที่ยากที่สุดในการเรียนของชาวต่างประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ ซึ่งประกอบไปด้วย ภาษาอารบิก ภาษาเกาหลี ภาษาจีนกลางและภาษาจีนกวางตุ้ง ภาษาญี่ปุ่นใช้โครงสร้างประโยคแบบ ปกก (ประธาน กรรม กริยา) ขณะที่ของภาษาอังกฤษจะเป็น ปกก (ประธาน กริยา กรรม) แทน ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อลองเอาภาษาญี่ปุ่นมาแปลเป็นภาษาอังกฤษแบบตรงๆเลย มันจะฟังดูเหมือนคุณกำลังพูดแบบอาจารย์โยดา ยังไงยังงั้น ในภาษาญี่ปุ่นจะมีรูปแบบการเขียนแตกออกเป็นสามรูปแบบ ซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับภาษาอังกฤษ หรือภาษาโรแมนติก โดยจะประกอบไปด้วย ฮิรางานะ คาตาคานะ และคันจิ และแต่ละแบบ ก็จะจำแนกออกไปตามความสุภาพ ตามทางการ ไม่เป็นทางการต่อไปอีก อีกทั้งภาษาญี่ปุ่นยังเป็นภาษาที่มีบริบทสูง ประกอบสร้างขึ้นโดยความหมายโดยนัย แทนที่จะสื่อสารออกไปตรงๆ ฟังดูน่าสนุกเนอะ? เรามาเริ่มต้นเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยเคล็ดลับในการเรียนตามนี้เลยดีกว่า 1.อย่าศึกษาพื้นฐานการเขียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตนเอง แม้ว่ามันจะง่ายกว่า ถ้าเรียนรู้พยางค์ต่างๆในฮิรางานะและคาตาคานะด้วยตนเอง แต่พวกมือใหม่อาจจะละเลย หลงลืมลำดับจังหวะอันสำคัญในการเรียนภาษาได้ ในภาษาอังกฤษ ถ้าคุณเขียนตัวหนังสือแปลกๆมา มันก็ยังพอรับได้อยู่ แต่ในภาษาญี่ปุ่น มันจะบ่งบอกให้รู้ได้เลยว่า คุณไม่สนใจที่จะเรียนการเขียนมันอย่างถูกต้อง ซึ่งแปลได้ว่า คุณขี้เกียจนั่นเอง การขี้เกียจอาจเป็นบ่อเกิดทัศนคติที่ไม่ดีในการเรียนภาษาญี่ปุ่นได้ อีกทั้งการเขียนตัวหนังแบบปกติ กับแบบลงน้ำหนักเยอะๆแล้วตวัดขึ้น…

Read the full article

10 เคล็ดลับในการเรียนภาษาญี่ปุ่น

คำถามที่เป็นที่นิยมกันมากที่สุดเลยคือ “ฉันอยากเรียนภาษาญี่ปุ่น แต่ฉันจะเริ่มจากตรงไหนดีล่ะ?” คำถามต่อไปที่ถามกันมาเยอะไม่แพ้กันคือ “ฉันเจอกับตอใหญ่เบ้อเริ่มของการเรียนภาษาญี่ปุ่นเข้าแล้ว และดูเหมือนทักษะของฉันจะไม่พัฒนามากไปกว่านี้แล้วล่ะ ฉันควรทำอย่างไรดี ???” เอาล่ะ ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้น หรือเริ่มไปได้หน่อยนึงแล้ว แล้วเกิดเจอทางตัน รายการพอดแคสต์นี้คือคำตอบสำหรับคุณ อาซุกะและผมระดมหัวคิดกันและเกิดแนวคิด 10 เคล็ดลับในการเรียนภาษาญี่ปุ่นแบบก้าวกระโดดและมีประสิทธิภาพ และผมก็อยากให้รายการพอดแคสต์นี้จี้จุดที่ว่า ไม่มีเวทมนตร์พิเศษอะไรใดๆบนโลกใบนี้ ที่จะทำให้คุณเก่งภาษาญี่ปุ่นภายในข้ามคืน แทนที่จะทำอย่างนั้น รายการนี้จะสำรวจว่า “ทำไม” หรือ “แรงบันดาลใจ” อะไรที่ทำให้คุณอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นมากกว่า หลังจากนั้น คุณก็จะมุ่งเป้าไปที่เป้าหมายเดียวของการเรียนภาษานี้ของคุณได้ พอเป็นอย่างนั้นแล้ว คุณจะได้ไม่ต้องมามัวเสียเวลาไปกับหัวเรื่องที่มีแต่น้ำ ไม่มีเนื้อและประหยัดเวลาของคุณไปได้เยอะทีเดียว ฉะนั้นแล้ว ลองมาฟังพอดแคสต์นี้ดู และรายละเอียดทั้งหมดจะอยู่ด้านล่าง บทพูดในพอดแคสต์ ภาษาญี่ปุ่น การออกเสียง คำแปลภาษาอังกฤษ อาซุกะ: おはようございます โอฮาโยะ โกไซมัส Good morning อเล็กซ์: おはようございます โอฮาโยะ โกไซมัส Good morning อาซุกะ: 昨日のパーティー楽しかったですね คีโน โนะ พาติ ทาโนะชิคัตตะ…

Read the full article

วิธีกล่าวทักทายในภาษาญี่ปุ่น

ประโยคที่ใช้ “ทักทาย” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “คนนิจิวะ” แต่ความจริง ยังมีประโยคอีกมากมายในภาษาญี่ปุ่นที่ใช้กล่าวทักทายผู้คน ใน วิกิฮาว ครั้งนี้จะมาสอนเรื่องน่ารู้ เป็นประโยชน์แก่ตัวคุณในเรื่องของการทักทายในญี่ปุ่นกัน สรปุสั้นๆ 10 วิ พูด “คนนิจิวะ” ในทุกสถานการณ์ รับโทรศัพท์พร้อมกล่าวว่า “โมชิ โมชิ” ใช้คำว่า “โอสซุ” กับเพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชาย ในโอซาก้า คำว่า “ยาโฮ่” เป็นที่นิยมกันมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กผู้หญิง เมื่อมีคนโค้งคำนับให้คุณ คุณก็ต้องโค้งคำนับกลับ วิธีที่ 1 ทักทายแบบทั่วไป พูด “คนนิจิวะ” ในทุกสถานการณ์ ประโยคนี้ใช้ทักทายได้ในทุกโอกาส และถ้าคุณจำประโยคทักทายประโยคอื่นไม่ได้เลย ใช้ประโยคนี้ซะ คุณสามารถใช้ประโยคทักทายนี้ได้ทุกคน ไม่จำกัดฐานะทางสังคมด้วย แม้จะมีคำทักทายที่แยกเป็นเวลาต่างๆแล้ว ประโยคนี้สามารถใช้ทักทายตอนบ่ายได้ด้วย (แทน Good Afternoon ได้) สำหรับประโยคนี้ คันจิจะเขียน 今日は ส่วนฮิรางานะเขียนこんにちは ออกเสียงประโยคนี้ได้ว่า คน-นี-จี-วา รับโทรศัพท์พร้อมกล่าวว่า “โมชิ…

Read the full article

วิธีการเรียนภาษาญี่ปุ่น

คนนิจิวะ (こんにちは)! ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่ดีในการเริ่มเรียนรู้ ไม่ว่าคุณจะใช้มันในการทำธุรกิจ เสพสื่อมีเดียของญี่ปุ่นให้เข้าถึงอารมณ์มากขึ้น เช่นพวกการ์ตูนมังงะ หรือพูดคุยสนทนากับเพื่อนชาวญี่ปุ่นของคุณก็ตาม แต่ในขั้นแรกนั้น การเรียนภาษาญี่ปุ่นอาจทำให้คุณรู้สึกท้อกันบ้าง เพราะมันไม่มีความเกี่ยวเนื่องกัน หรือใช้มันเป็นแหล่งอ้างอิงกับภาษาอื่นเช่นภาษาอังกฤษเข้ามาช่วยได้เลย รูปแบบการเขียนและแนวทางก็ยังซับซ้อนเข้าไปอีก แต่เรื่องหลักไวยากรณ์ การออกเสียงและพวกบทสนทนาพื้นฐานจะตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อนอะไร เริ่มด้วยการรู้ประโยคที่จำเป็นๆก่อน แล้วค่อยเรียนลึกไปถึงเสียงในภาษาญี่ปุ่นและรูปแบบการเขียนกันก่อนดีกว่า วิธีที่ 1 พื้นฐานของภาษา เรียนรู้รูปแบบการเขียนภาษาญี่ปุ่น การเขียนภาษาญี่ปุ่นมีทั้งหมดสี่รูปแบบ แต่ละรูปแบบก็จะมีอักขระที่ต่างกันออกไป อาจดูเหมือนมากมาย แต่ทุกคำในภาษาญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการเขียนในรูปแบบใดก็ตาม จะมีการออกเสียงด้วยการรวมกันของเสียงพื้นฐานเพียง 46 เสียง การจัดรูปแบบการเขียนที่ต่างกันและวิธีใช้ที่ต่างกันของแต่ละรูปแบบให้ได้เป็นสิ่งสำคัญในการเรียนภาษาญี่ปุ่น อธิบายภาพรวมแบบรวบรัดได้ดังนี้ ฮิรางานะเป็นพยางค์ ตัวอักษรการออกเสียงในภาษาญี่ปุ่น ที่สร้างรูปแบบการเขียนในภาษาญี่ปุ่นขึ้นมาหนึ่งรูปแบบ อักขระแต่ละตัวจะมีพยางค์เป็นของตัวเอง อาจรวมถึงสระและเสียงพยัญชนะด้วย ซึ่งไม่เหมือนกับพยัญชนะในภาษาอังกฤษเลย คาตาคานะก็เป็นอีกหนึ่งพยางค์ ส่วนมากใช้ทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ หรือเสียงเลียนธรรมชาติ (เช่นเสียง ปัง! หรือเสียงกรีดร้อง) เมื่อรวมฮิรางานะเข้ากับคาตาคานะเข้าด้วยกันแล้ว มันจะกลายเป็นตัวกำหนดช่วงเสียงทั้งหมดในภาษาญี่ปุ่น คันจิเป็นอักขระของจีนที่นำมาปรับให้เป็นรูปแบบการเขียนอีกอย่างหนึ่งในภาษาญี่ปุ่น ในขณะที่ฮิรางานะและคาตาคานะเป็นตัวอักษรที่มีการออกเสียงเพียงอย่างเดียว แต่คันจิไม่เป็นแบบนั้น มีตัวอักษรคันจิมากมาย เป็นพันๆตัว พร้อมด้วยการใช้งานที่แบบทั่วไปถึง 2,000 แบบ ฮิรางานะและคาตาคานะถือกำเนิดมาจากตัวคันจิพวกนี้แหละ เสียงทั้ง…

Read the full article

5 สิ่งในญี่ปุ่นที่ผมจะไม่มีวันคุ้นชินกับมัน

ช่วงที่ผมอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นได้ประมาณสัปดาห์กว่าๆ ผมเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ มองหาของกินที่คุ้นปาก เพื่อบรรเทาอาการคิดถึงบ้านสักหน่อย ผมก็ได้ไปเจอกับสิ่งๆหนึ่ง หน้าตาคล้ายกับของกินที่ประเทศผม ผมลองกัดลงไปคำหนึ่ง แค่คำเดียว ผมก็ถูกจู่โจมจากน้ำตาล เนื้อครีมผสมที่หวานเลี่ยนอย่างไม่คาดคิด หวานชนิดที่วิลลี วองก้าต้องพูดออกมาเลยว่า มันอันตรายต่อสุขภาพ ผมรักประเทศญี่ปุ่น ไล่ตั้งแต่ผู้คน ไปจนถึงขนมโมจิที่เต็มไปด้วยช็อคโกแลตและมาร์ชเมลโลว์ มันช่างเป็นสถานที่ที่น่าทึ่งจริงๆ แต่มันก็มีบางสิ่งที่ผมรับได้ ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลจากบ้านผมที่อังกฤษมากก็ตาม ผมก็ยังรับได้ ขณะที่บางสิ่ง ยังทำใจให้คุ้นเคยกับมันได้ยากอยู่ เช่นเจ้าขนมปังที่เต็มไปด้วยน้ำตาล และครีมผสมรสชาติหวานเลี่ยนเป็นต้น วันแรกในญี่ปุ่นของผมนั้น ผมเดินเข้าไปในร้านๆหนึ่งและสะดุ้งเข้ากับเสียงทักทายที่ผมคิดว่าทุกคนต้องเคยได้ยิน ผมยอมรับว่า สิ่งแรกที่ผมตอบกลับไปหลังจากที่เจ้าของร้าน และพนักงานร้านร้องพร้อมกันว่า “อิรัชไชมัตเสะ!” คือ “ขอโทษครับ ผมพูดภาษาญี่ปุ่นไม่เป็น” พนักงานทั้งร้านมองมาที่ผมด้วยสายตาที่งงงวย และพวกเราเห็นพ้องต้องกันว่า อย่าพูดถึงมันอีก แต่ตอนนี้ผมยืดอกรับเลย คิดซะว่าเรากำลังรับพระราชประกาศอยู่ก็เหมาะดี แม้ว่า วัฒนธรรมในหลายๆแง่มุมของญี่ปุ่นจะเป็นอะไรที่ง่ายต่อการทำความคุ้นเคย แต่ก็ยังมีอีกแง่มุม ที่ผมคิดว่าชาตินี้คงไม่มีวันเข้าใจแน่นอน ผมเชื่อว่าชาวต่างชาติที่มาตั้งรกรากที่นี่ต้องคิดแบบเดียวกับผม ตั้งแต่วิธีรับประทานอาหาร จนไปถึงวิธีการจาม นี่คือลักษณะเฉพาะตัวที่แปลกประหลาดของญี่ปุ่นที่ทำให้ผมงงงวยมาจนทุกวันนี้ 1.เรื่องของก๋วยเตี๋ยว ตั้งแต่ผมเติบโต และก้าวเข้ามาในโลกของผู้ใหญ่ และสามารถทำอาหารเลี้ยงชีพตัวเองได้แล้วนั้น ผมเรียนรู้มาว่ามีอยู่สองสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการรับประทานอาหาร: เคี้ยวอาหารต้องปิดปากให้สนิท และกะหล่ำปลีบรัสเซลล์เป็นสิ่งที่ชั่วร้าย และต้องถูกชำระล้างด้วยไฟบรรลัยกัลป์ ดังนั้น…

Read the full article

ญี่ปุ่นได้ทำการซื้อไร่กังหันลมไอริชมูลค่ากว่า 300 ล้านยูโร

สินทรัพย์ที่ประกอบไปด้วยไร่กังหันลม 4 ไร่ที่กำลังดำเนินการอยู่ และคาดว่าไร่ที่ 5 จะดำเนินการภายในปีหน้า ไมเคิล เมอร์เนน ผู้ประกอบการด้านพลังงานหมุนเวียน และผู้สนับสนุนเงินทุนจากอังกฤษ ได้ขายหุ้นรายใหญ่เป็นยอดรวมของไร่กังหันลมในมึนสเตอร์และคอนน็อท มูลค่าราว 300 ล้านยูโร ให้กับกลุ่มประเทศญี่ปุ่น โซจิตส์ คอร์ปอเรชั่น บริษัทการค้าการลงทุนจากโตเกียว มิตซุบิชิ ยูเอฟเจ และบริษัท เช่าการเงินและสาธารณูปโภค คันไซ อิเล็คทริค พาวเวอร์ ได้เปิดเผยไปเมื่อวันจันทร์ว่าพวกเขาได้ซื้อหุ้น 60% ในบริษัทที่อยู่เบื้อหลังสินทรัพย์ซึ่งมีความสามารถในการให้พลังงานแก่ที่พักอาศัยเป็นจำนวน 150,000 ครัวเรือน ผู้ขาย อินวิส เอเนอร์จี ได้จัดตั้งขึ้นมาให้เป็นบริษัทร่วมทุนกันระหว่างบริษัทวิศวกรรมและพลังงานลมของคุณเมอร์เนนอย่าง เครเดิล กรุ๊ป กับ เอชจี แคปปิตอล บริษัทหลักทรัพย์เอกชนจากสหราชอาณาจักร ซึ่งทั้งคู่ถือหุ้นอยู่ 40% สินทรัพย์นี้มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 223 เมกะวัตต์ ให้พลังงานแก่ไร่กังหันลม 4 ไร่ให้สามารถดำเนินงานได้อยู่ ซึ่งไร่ที่ห้านี้คาดการณ์ว่าจะนำออกมาใช้ภายในต้นปี 2018 ภาคพลังงานลมในไอร์แลนด์มีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา โดยกลุ่มพลังงานนิวเคลียร์ทั่วไปของจีนได้กว้านซื้อสินทรัพย์ที่เป็นไร่ผลิตพลังงานลมกว่า…

Read the full article